การไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
|
|
สารบัญ
- การเตรียมตัวเพื่อที่จะไปศึกษาในญี่ปุ่นควรเริ่มจากอะไรก่อน?
- มีเงื่อนไขในการเลือกสถาบันการศึกษาอย่างไร?
- เข้าสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นก่อนสอบเข้ามหาลัยมีหลักการอย่างไร?
- สถาบันการศึกษาภาษาญี่ปุ่นมีแบบใดบ้างและจำนวนเท่าใด?
- หลักฐานและสิ่งจำเป็นในการแสดงเพื่อเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น
- คุณสมบัติของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง
- ต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง
? และจะยื่นใบสมัครเมื่อไร?
- ขั้นตอนการเข้าประเทศญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง?
การขอวีซ่า
|
|
การเตรียมตัวเพื่อที่จะไปศึกษาในญี่ปุ่นควรเริ่มจากอะไรก่อน?
|
นักศึกษาต่างชาติที่ไปศึกษาในญี่ปุ่น
มีมูลเหตุจูงใจที่แตกต่างกันอีกทั้งวิธีศึกษา
ระยะเวลา
สถาบันก็แตกต่างกันด้วยแต่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ
ความสามารถทางการศึกษาของท่านปัจจัย
ทางเศรษฐกิจและอาชีพการงานหรือทิศทางในอนาคตของท่าน
- ระดับ :
โดยนำเอาภูมิหลังทางการศึกษามาใช้พิจารณาว่าระดับใดเหมาะสมที่ท่านจะเข้าศึกษา
(โรงเรียนอาชีวศึกษา วิทยาลัย
มหาวิทยาลัย หรือ บัณฑิตวิทยาลัย)
- สาขา :
กำหนดสาขาวิชาที่จะศึกษาให้แน่นอนและชัดเจน
- ปริญญา :ต้องการได้รับปริญญาหรือไม่
- เวลาและระยะเวลา
:
จะเริ่มศึกษาในญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อใดและจะอยู่ญี่ปุ่นเป็นระยะเวลานาน
เท่าใด
- สถานภาพการไปศึกษาต่อ
:
กำหนดสถานภาพว่าจะไปศึกษาในลักษณะใด
เรียนเฉพาะภาษา
ศึกษาต่อโดยมีวัตถุประสงค์ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นหรือหลักสูตร
พิเศษในมหาวิทยลัยเอกชน
ศึกษาต่อด้วยทุนการศึกษา
ศึกษาต่อโดยทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่น
(กระทรวงศึกษาธิการ)
ทุนส่วนตัว
ศึกษาต่อโดยรับผิดชอบค่าใช้จ่วยในการศึกษาเองทั้งหมด
ศึกษาต่อในระยะสั้น
ศึกษาต่อโดยโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยที่กำลังศึกษาอยู่และมหาวิทยาลัย
ที่กำลังศึกษาอยู่และมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น
-Top-
|
|
มีเงื่อนไขในการเลือกสถาบันการศึกษาอย่างไร?
|
หลังจากได้รายชื่อโรงเรียน
สถาบัน ระเบียบการต่างๆ แล้ว
นักศึกษาควรเลือกสถาบันการ
ศึกษา ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้
โดยคำนึงถึง
วัตถุประสงค์และความสามารถของตัวเอง
แต่ละคน
อาจจัดลำดับ
ก่อนหลังของเงื่อนไขต่อไปนี้ไว้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการในการเรียน
งบประมาณ ผลการเรียน
ความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น
ทุนการศึกษา
แต่ถ้าได้พิจารณาอย่าง
ถี่ถ้วนถึงแต่ละเงื่อนไข
โดยคำนึงถึงแผนชีวิตในอนาคตด้วยแล้วก็จะสามารถเลือกสถาบันการศึกษา
ที่เหมาะสมได้โดยไม่ยาก
ท่านควรสมัครสอบคัดเลือกหลายๆ
แห่งเพื่อให้สามารถเข้าเรียนในสาขา
ที่ต้องการได้หากพลาดจากสถาบันใดสถาบันหนึ่ง
- เนื้อหาของหลักสูตร
- อุปกรณ์
เครื่องมือ
สถานที่สำหรับการทำวิจัย
- ทุนการศึกษา
- ค่าใช้จ่าในการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ
- ที่พักอาศัย
- การสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษา
- โปรแกรมภาษาญี่ปุ่น
- โปรแกรมพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
- สถานที่ตั้ง
ถึงแม้ว่านักศึกษาต่างชาติต่างก็มุ่งที่จะเรียนในโตเกียวก็ตาม
แต่ในพื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น
ก็มีข้อได้เปรียบหลายอย่างทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า
จำนวนนักศึกษาต่อห้องที่น้อยกว่า
รวมทั้ง
การได้ใกล้ชิดกับสังคมท้องถิ่นก็มีมากกว่า
ฉะนั้นไม่ควรพิจารณาโรงเรียนเฉพาะในโตเกียวเท่านั้น
ขอให้พิจารณาให้ทั่วประเทศ
-Top-
|
|
เข้าสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นก่อนสอบเข้ามหาลัยมีหลักการอย่างไร? |
แม้ว่าจะมีสถาบันการศึกษาบางแห่งสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษแต่ส่วนใหญ่สถาบันการศึกษา
ในญี่ปุ่นจะสอนโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด
ดังนั้นนักศึกษาที่มีความประสงค์ที่จะศึกษาในสถาบันการ
ศึกษาระดับสูงในญี่ปุ่นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นอย่างเพียงพอ
ด้วยเหตุ
นี้นักศึกษาต่างชาติส่วนมากจะศึกษาภาษาญี่ปุ่นก่อนอย่างน้อย
6 เดือน ถึง 2 ปี
ก่อนสอบเข้าศึกษาต่อ
ในสถาบันการศึกษาระดับสูง
-Top-
|
|
สถาบันการศึกษาภาษาญี่ปุ่นมีแบบใดบ้างและจำนวนเท่าใด? |
จากการสำรวจของกรมวัฒนธรรมลงวันที่
1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
ปรากฎว่าในญี่ปุ่น
มีสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่ 1,658
แห่ง ซึ่งในขณะนี้
ได้เพิ่มขึ้นเป็น 2000 กว่าแห่ง
เป็นสถาบัน
สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
สถาบันสำหรับผู้ฝึกงาน
ทางเทคนิคชาวต่างชาติ
สถาบันสำหรับลูกหลานของชาวต่างชาติทั้วไปที่พำนักในญี่ปุ่น
ในจำนวนสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่มีความประสงค์เข้าศึกษาต่อในมหาลัยนั้น
มีหลัก
สูตรที่มหาวิทยาลัยเอกชนจัดขึ้น
39 แห่ง
และสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นที่สมาคมส่งเสริมการศึกษา
ภาษาที่สมาคมส่งเสริมการศึกษาภาษาญี่ปุ่นรับรอง
256 แห่ง
การจัดหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นสำหรับนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยเอกชนของญี่ปุ่นนั้น
เป็นหลักสูตรปกติที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในระบบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย
เป็นหลักสูตรสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการศึกษาภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นหรือวิชาพื้นฐานสำหรับ
นักศึกษาต่างชาติที่ต้องการศึกษาภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นหรือวิขาพื้นฐานสำหรับเตรียมสอบคัดเลือก
เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี
และถ้าหลักสูตรของมหาวิทยาลัยใดมีระบบรับรองนักศึกษาให้เข้าศึกษา
ในมหาวิทยาลัยนั้น นักศึกษา
ก็สามารถใช้บริการได้
หรือจะเลือกสอบเข้าเรียนในสถาบันอื่นได้เปรียบ
ในเรื่องที่พักอาศัย งานพิเศษ
ตลอดจนสวัสดิการต่างๆ เช่น
ความช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล
เนื่องจากสถาบันในระดับนี้มีน้อยจำนวนนักศึกษาที่รับได้จึงมีจำนวนจำกัด
-Top-
|
หลักฐานและสิ่งจำเป็นในการแสดงเพื่อเข้าเรียนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น |
การเข้าศึกษาในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นนั้น
ท่านจะต้องสำเร็จการศึกษา
โดยมีระยะเวลา
เรียนในประเทศของท่านมาแล้ว 12
ปี
สถาบันส่วนมากคัดเลือกนักศึกษาจากเอกสาร
โดยเอกสาร
หลักที่จะต้องส่งไปยังสถาบันมีดังนี้
- ใบสมัคร
- ใบแสดงผลการเรียน
(Transcript)
- ประกาศนียบัตร
- ใบรับรอง
- จดหมายค้ำประกัน
- เอกสารแสดงสถานภาพทางการเงิน
- ใบรับรองแพทย์
- ค่าสมัคร (10,000 -
30,000 เยนเงินไทยก็ประมาณ 3,500 - 10,500 บาท
คิดอัตราเงินที่ 100เยน 35บาท)
รายละเอียดต่างๆ
จะแตกต่างกันไปตามสถาบัน
ขอให้นักศึกษาติดต่อกับสถาบันนั้นๆ
โดยตรง
เมื่อส่งเอกสารดังกล่าวข้างต้นแล้ว
โรงเรียนจะแจ้งผลการคัดเลือกไปยังผู้สมัครและเป็น
ตัวแทนในการดำเนินการขอวีซ่าให้
ช่วงเวลาสมัครคือ
โดยทั่วไป
หลักสูตร 1 หรือ 2 ปี
จะเปิดเรียนเดือนเมษายน
หลักสูตรปีครึ่งจะเปิดเรียนเดือน
ตุลาคม
กำหนดการรับสมัครจะแตกต่างไปตามแต่ละโรงเรียน
แต่ควรสมัครก่อนที่โรงเรียนจะเปิด
ภาค 4-6 เดือน โดยผู้ที่ต้องการไปเรียนเดือนตุลาคม
ความสมัครตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายนและ
เมื่อรวมเวลาที่ใช้ในการส่งจดหมายไปขอสมัคร
การเตรียมเอกสารของตนเองและผู้ค้ำประกันที่ต้อง
ส่งแล้ว
ควรเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนไปศึกษาต่ออย่างน้อย
6-8 เดือน
-Top-
|
คุณสมบัติของนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง? |
มหาวิทยาลัย /
วิทยาลัย
นักศึกษาที่ต้องการเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต้องมีอายุตั้งแต่
18 ปีขึ้นไป
สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนของประเทศตนเองเป็น
ระยะเวลา 12 ปี
แต่ในบางประเทศที่หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายเรียนนจบใน
10
ดหรือ 11 ปีนั้น
นักเรียนที่ผ่านหลักสูตรภาษาญี่ปุ่น
1 ปี จากโรงเรียนภาษาญี่ปุ่นของ
สถาบันนานาชาติคันไซเท่านั้น
จึงจะได้รับการรับรองว่ามีคุณสมบัติเทียบเท่าผู้จบ
การศึกษาในโรงเรียนที่มีระยะเวลาเรียน
12 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งในญี่ปุ่นที่รับนักศึกษาต่างชาติที่มีอายุ
18 ปี
หรือมากกว่า ผู้ซึ่งส่งหลักฐานแสดงว่าผ่านหรือคาดว่าจะผ่านการสอบวัดระดับความ
สามารถในประเทศบ้านเกิดที่เที่ยบเท่าการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาบัยในญี่ปุ่น
เช่น
การสอบคัดเลือกเข้าวิทยาลัยในประเทศเกาหลี
เป็นต้น
บัณฑิตวิทยาลัย
นักศึกษาที่ต้องการเข้าศึกษาในระดับปริญญาโทของบัณฑิตวิทยาลัย
ต้องสำเร็จ
การศึกษาหลักสูตร 16 ปี
โดยจบการศึกษาจากโรงเรียน 12 ปี
และมหาวิทยาลัยที่มี
หลักสูตร 4 ปี
หรือผู้ที่ได้รับการพิจารณายอมรับว่ามีความสามารถทางวิชาการในระดับ
เดียวกันหรือสูงกว่า
หลักสูตรปริญญาเอก
ผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก
ต้องมีวุฒิ
ปริญญาโทหรือผู้ที่ได้รับการพิจารณายอมรับว่ามีความสามารถทางวิชาการในระดับ
เดียวกันหรือสูงกว่า
นักศึกษาวิจัย
คุณสมบัติของผู้สมัครจะแตกต่างกันซึ่อาจสำเร็จการศึกษาจาก
โรงเรียนมา 14 ปี
สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือการศึกษาระดับปริญญาโท
หรือปริญญาเอก
นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยจากประเทศที่สามารถเรียนสำเร็จ
ระดับมหาวิทยาลัยภายในระยะเวลาน้อยกว่า
16 ปี (หรือปริญญาทางแพทย์และ
ทันตแพทย์ภายในระยะเวลาน้อยกว่า
18 ปี
จะสามารถเข้าศึกษาได้เมื่อมีอายุ
22 ปี
ภายหลังสำเร็จการศึกษาและได้ลงทะเบียนเป็นนักศึกษาวิจัย
นักวิจัย หรืออื่นๆ ใน
ลักษณะเดียวกันเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามปกติ
1 ปี หรือมากกว่า) ในมหาวิทยาลัย
สถาบันที่เป็นการร่วมมือของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันในลักษณะเดียวกันในญี่ปุ่นหรือ
ต่างประเทศ
วิทยาลัยอาชีวศึกษา
หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง
ด้วยข้อยกเว้นของโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น
ผู้สมัครเข้าเรียนในสถาบันการ
ศึกษาประเภทนี้ต้องมาีสถานภาพต่อไปนี้
- ต้องผ่านการเรียนในโรงเรียนมา
12 ปี
และจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา
แต่
ในบางประเทศที่ระบบการศึกษาจนจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายมีเพียง
10 หรือ 11 ปีนั้น
นักเรียนที่ผ่านหลักสูตรภาษาญีปุ่น
1ปี จากโรงเรียนถภาษา
ญี่ปุ่นของสถาบันนักศึกษานานาชาติหรือของสถาบันนักศึกษานานาชาติคันไซ
เท่านั้นจึงจะได้รับรองว่ามีคุณสมบัติเทียบเท่าผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนที่มีระยะ
เวลาเรียน 12 ปีมาแล้ว
- จะต้องมีความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นอย่างเพียงพอในการศึกษาในวิทยาลัยอาชีว
ศึกษานี้
หนึ่งในสามข้อต่อไปนี้เป็นเงื่อนไขในการตัดสินความสามารถทางภาษา
ญี่ปุ่น
(1)
นักศึกษาที่เรียนภาษาญี่ปุ่นมาไม่ต่ำกว่า
6 เดือนในสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่น
ที่สมาคมส่งเสริมการศึกษาภาษาญี่ปุ่นรับรองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
เซ็นอนุญาต
(2) นักศึกษาที่ผ่านการทดสอบความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นระดับ
1 หรือ ระดับ 2 ของ
AIEJ และมูลนิธิญี่ปุ่น
(3) นักศึกษาที่ได้ผ่านการศึกษาในโรงเรียนมัธยมต้นหรือมัธยมปลายในญี่ปุ่นอย่างน้อย
1 ปี
วิทยาลัยเทคนิค
ผู้สมัครเข้าสถาบันการศึกษาประเภทนี้จะต้องสำเร็จการศึกษาในโรงเรียนมา
เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี
ในประเทศของตนเองในปัจจุบันนี้มีวิทยาลัยเทคนิค
ประเภทนี้ไม่มากนักที่รับนักศึกษา
ต่างชาติทุนส่วนตัวเข้าเรียน
-Top- |
ต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง
? และจะยื่นใบสมัครเมื่อไร? |
โดยทั่วไปสถาบันการศึกษาระดับสูงในญี่ปุ่นจะประกาศรับสมัครนักศึกษาในช่วง
เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมของทุกปีนักศึกษาต่างชาติจึงควรติดต่อโดยตรงกับทางสถาบัน
การศึกษา
สถาบันการศึกษาแต่ละแห่งต่างก็มีวิธีการในการสมัครเป็นของตนเองฉะนั้น
สิ่งแรกที่จะต้องทำคือสอบถามไปยังสถาบันที่เราต้องการเข้าศึกษาเกี่ยวกับระเบียบการ
ในการรับสมัครอย่างไรก็ตามโดยทั่ว
ๆ
ไปแล้วเอกสารที่จำเป็นมีดังนี้
ระดับปริญญาตรี
วิทยาลัย
- ใบสมัคร (ให้ใช้ใบสมัครที่มหาวิทยาลัยกำหนด)
- ประวัติของนักศึกษา
- ประกาศนียบัตรการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
- ใบแสดงผลการศึกษาของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
- ใบรับรองจากอาจารย์ใหญ่หรือครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ท่านเรียน
- ใบรับรองแพทย์
- ใบรับรองจากผู้ค้ำประกัน
- สำเนาบัตรประจำตัวคนต่างด้าว
ถ้าผู้สมัครเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น
- รูปถ่าย
ระดับบัณฑิตวิทยาลัย
- ใบสมัคร (ให้ใช้ใบสมัครที่กำหนดไว้เท่านั้น)
- ใบรับรองประวัติส่วนตัวจากมหาวิทยาลัยที่สำเร็จการศึกษา
- ใบประกาศนียบัตรหรือใบปริญญา
- ใบรับรองปริญญา
- ใบแสดงผลการศึกษาจากโรงเรียนหรือมหาลัยที่เรียนครั้งสุดท้าย
- ใบรับรองแพทย์
- ใบรับรองจากคณบดี
หัวหน้าภาควิชา
หรืออาจารย์ชของมหาวิทยาลัยที่สำเร็จการศึกษา
- ปริญญานิพนธ์และสรุปจากมหาวิทยาลัยที่สำเร็จการศึกษา
- ใบรับรองการลงทะเบียนคนต่างด้าวหากผู้สมัครอาศัยอยู่ในญีปุ่น
- ใบรับรองการอนุญาตให้เข้าสอบคัดเลือก
(หากู้สมัครศึกษาอยู่ในบัณฑิตวิทยาลัยอื่นหรือ
กำลังทำงานอยู่)
- รูปถ่าย
วิทยาลัยอาชีวศึกษาและวิทยาลัยเทคนิค
- ใบสมัคร (กรอกใบสมัครของทางโรงเรียนให้สมบูรณ์)
- ใบประกาศนียบัตรหรือใบรับรอง
(จากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
มหาวิทยาลัยหรือ
โรงเรียนอื่นๆ )
- ใบแสดงผลการศึกษา (จากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่นๆ)
- ใบรับรองจากผู้ค้ำประกัน
- ใบรับรองแพทย์ (จากแพทย์หรือที่ทำการอนามัย)
- รูปถ่าย
* 1.ใบรับรองการเข้าเรียน
/
ใบรับรองคะแนนจากโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น
(โรงเรียนที่ผ่าน
การรับรองแล้ว)
* 2.ใบรับรองรอผลการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น
(จากโรงเรียนที่ผ่าน
การรับรองแล้ว)
นักศึกษาที่ยื่นใบสมัครจากต่างประเทศจะต้องส่งใบรับรองการผ่านการทดสอบความรู้ทาง
ภาษาญี่ปุ่นในระดับ 2
หรือสูงกว่าแทน *1 หรือ*2
-Top- |
ขั้นตอนการเข้าประเทศญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง? การขอวีซ่า |
วิธีการในการเข้าประเทศญี่ปุ่นสำหรับนักศึกษาต่างชาติ
ชาวต่างชาติที่ต้องการเข้าไปศึกษาในประเทศญี่ปุ่นจะต้องปฎิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.
ขอรับหนังสืออนุญาตให้เข้าศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่เลือก
2. ขอหนังสือเดินทาง พาสปอร์ต
3. ขอรับรองการตรวจลงตราวีซ่า
การขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นมีวิธีการขอรับการตรวจลงตราวีซ่า
2 วิธีคือ
1.
การขอโดยการพิจารณาล่วงหน้า
คนต่างชาติสามารถขอวีซ่าได้ด้วยตนเอง
ณ สถานฑูต
หรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในต่าง
ประเทศและขั้นตอนค่อนข้างเสียเวลานานเพราะจะรวมถึงการส่งเอกสารไปมาจากญี่ปุ่น
รวมทั้งระหว่าสถาบันในประเทศญี่ปุ่นด้วย
2.
การขอโดยใช้หนังสือแสดงสถานภาพการอยู่อาศัยในญี่ปุ่น
หลังจากนักศึกษาหรือผู้ค้ำประกันได้รับหนังสือรับรองแสดงสถานภาพการอาศัย
ในญี่ปุ่นแล้วนักศึกษาสามารถที่จะขอวีซ่าได้ที่สถานฑูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในต่างประเทศ
วิธีนี้ค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว
การเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อสอบคัดเลือกมีขั้นตอนดังนี้
ในกรณีของการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อสอบคัดเลือกนั้น
ตามปกติแล้วนักศึกษาจะ
ได้รับวีซ่าการอยู่อาศัยระยะสั้นเพื่อสอบคัดเลือก
ในการยื่นขอวีซ่าประเภทการอยู่อาศัยระยะสั้น
เพื่อการสอบนี้นักศึกษาจะต้องแสดงหลักฐาน
เช่น
บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบของสถาบันที่เข้าสอบ
การเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยวีซ่าประเภทนี้มีระยะเวลาพำนักประมาณ
15 หรือ 90 วันขณะที่
อยู่ในญี่ปุ่น
ถ้าผลสอบประกาศออกมาว่าสอบผ่านก็สามารถดำเนินเรื่องการเปลี่ยนสถานภาพการ
อยู่อาศัยได้เลยโดยไม่ต้องกลับประเทศ
แต่ทว่า
ถ้าเป็นวีซ่าประเภทการอยู่อาศัยระยะสั้นเพื่อวัตถประสงค์อื่นที่ไม่ใช้การสอบนั้น
เช่น
เพื่อท่องเที่ยว
หลังจากผลสอบประกาศออกมาว่าสอบผ่านตามหลักการจะไม่สามารถเปลี่ยนสถาน
ภาพการอยู่อาศัยเป็น "นักศึกษาวิทยาลัย"
ได้ขณะที่ยังพำนักอยู่ในญี่ปุ่น
จึงจำเป็นต้องออกนอก
ประเทศก่อน
ในกรณีนี้ให้ขอใบอนุญาตให้เข้าเรียนจากสถาบันการศึกษาที่สอบผ่าน
แล้วนำ
หลักฐานไปยื่นขอสถานภาพการอยู่อาศัยที่กองตรวจคนเข้าเมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ
ถ้ายังไม่ทราบ
ผลการสอบขณะยังอยู่ในญี่ปุ่นก็ให้ตัวแทนดำเนินการแทนได้
หลังจากนั้นก็นำหนังสือรับรองที่ออก
จากกองตรวจคนเข้าเมืองเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่นแล้วนำไปยื่นขอวีซ่าประเภท
"นักศึกษามหา
วิทยาลัย" ที่สถานฑูตญีปุ่น
วิธีการขอวีซ่าทำอย่างไร?
การขอวีซ่านั้นอาจทำได้ 2
วิธี
การขอโดยใช้ใบรับรองแสดงสถานภาพการอยู่อาศัยในญี่ปุ่น
และการขอโดยการยื่นให้พิจารณาก่อน
ในกรณีแรกนั้นขั้นตอนต่างๆ
สามารถกระทำโดยนักศึกษาเอง
หรือโดยผู้ค้ำประกัน
เอกสารสำคัญสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นมีดั้งนี้
เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสถานภาพการอยู่อาศัยสำหรับ
"นักศึกษาวิทยาลัย" |
เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสถานภาพ
การอยู่อาศัยสำหรับ
"นักศึกษาก่อนวิทยาลัย" |
- ใบขอหนังสือรับรองสถานภาพการอยู่อาศัย
- รูปถ่ายของนักศึกษา
2 รูป (3x4cm)
- พาสปอร์ตหรือสำเนาใบรัรองการท่องเที่ยว
- สำเนาเอกสารรับรองการเข้าศึกษาจากสถาบันการศึกษา
- ประวัติส่วนบุคคลของนักศึกษา
- ประกาศียบัตรการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนหรือสถาบัน
สุดท้ายที่ศึกษา
- เอกสารแสดงสถานภาพทางการเงินที่แสดงให้เห็นว่านักศึกษามี
ค่าใช้จ่ายเพียงพอในการอยู่อาศัยญี่ปุ่น
ใบประกาศนียบัตรการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนญี่ปุ่น
เอกสารแสดงเนื้อหาของการศึกษาที่นักศึกษาต้องการ
รวมทั้ง
วิชาและจำนวนชั่วโมง
จดหมายที่เขียนโดยนักศึกษา
อธิบายถึงงานที่คาดหวังไว้หลังจาก
สำเร็จการศึกษา
เอกสารที่จำเป็นอื่นๆ
ซองเปล่าติดแสตมป์
430 เยน
จ่าหน้าถึงตัวนักศึกษาเองเพื่อ
การส่งเอกสารต่างๆ ให้นักศึกษา
|
|
|
*
เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสถานภาพการอยู่อาศัยสำหรับ
"นักศึกษาวิทยาลัย" และ "นักศึกษาก่อนวิทยาลัย"
อาจเปลี่ยนแปลงได้
นักศึกษาสามารถยื่นขอใบรับรองสถานภาพการอยู่อาศัยได้ด้วยตนเอง
แต่ทว่ากว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะออกใบรับรอง
สถานภาพการอยู่อาศัยให้นั้นอาจต้องใช้เวลานาน
ดังนั้นส่วนใหญ่จึงให้ตัวแทนเป็นผู้ยื่นให้ |